ฮาร์บิ้น ... เมืองหนาวสุดขั้ว
ฮาร์บิน เป็นเมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำซงหัว ฮาร์บินเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต และยังเป็นศูนย์กลางทางด้านการปกครอง เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และการสื่อสารคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน จึงถือได้ว่าเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของจีนและของเอเชียด้านตะวันออกเฉียง เหนือ
เมืองฮาร์บินเดิมเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆริมฝั่งแม่น้ำซงฮวาเจียงในภาคเหนือ ของจีน สมัยนั้นที่นั่นมีครอบครัวชาวประมงเพียงไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นพวกเขาใช้ ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอกมากนัก ตั้งแต่ ค.ศ. 1898 เป็นต้นมา เนื่องจากมีการสร้างทางรถไฟจากทิศใต้ไปสู่ทิศเหนือสายหนึ่งซึ่งตัดผ่านหมู่บ้านแห่งนี้ ทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านแห่งนี้ขาดความเงียบสงบเฉกเช่นเดิมอีกต่อไป ในเวลาเดียวกัน มีชาวรัสเซียจำนวนมากได้เดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งนี้ ชาวรัสเซียนอกจากได้สร้างทางรถไฟไปถึงที่นั่นแล้ว ยังได้สร้างเมืองขึ้นมาเมืองหนึ่งตามบริเวณหมู่บ้านนี้ซึ่งก็คือเมืองฮาร์ บินนั่นเอง จนถึงปัจจุบันนี้ ในเมืองฮาร์บินยังปรากฏสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมรัสเซียให้เห็นเป็นจำนวนมาก แม้เวลาได้ผ่านไปยาวนานนับร้อยปีแล้วก็ตาม แต่สิ่งก่อสร้างดังกล่าวยังคงทรงความหมายที่สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการพัฒนา สมัยเริ่มแรกของเมืองฮาร์บินได้เป็นอย่างดี
คำว่า ฮาร์บิน เป็นคำในภาษาแมนจู มีความหมายว่า 'สถานที่ตากแหจับปลา'
ฮาร์บินมีสมญานามว่า 'ไข่มุกบนคอหงส์' เนื่องจากสัญฐานของมณฑลเหยหลงเจียงมีลักษณะคล้ายหงส์ส่วนสมญานามอื่นๆ คือ 'มอสโกแห่งตะวันออก' หรือ 'ปารีสแห่ง ตะวันออก' เนื่องจากลักษณะสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนในเมืองคล้ายกับในมอสโกหรือ ปารีส และฮาร์บินยังเป็นที่รู้จักในชื่อ 'เมืองแห่งน้ำแข็ง'เพราะมีฤดูหนาวที่ยาวนานและหนาวเย็นมาก
เกาะพระอาทิตย์ (Sun Island) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำซงฮัวเจียง บริเวณทางเข้ามีป้ายหินเขียนว่า ไท่หยางเต่า เป็นสถานที่หนึ่งในการจัดเทศกาลแกะสลักหิมะน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง กำแพงเมืองจีน หอฟ้าเทียนถาน และอื่นๆ อีกมากมาย และที่โดนเด่นที่สุดคงจะเป็น ลานน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำซงฮัวเจียง ที่ดึงดูดสายตาทุกคนด้วยการโชว์การกระโดดน้ำและว่ายน้ำ ของเหล่าผู้สูงอายุที่อุณหภูมิ -20องศาเซลเซียส ท้าทายจนขนลุกเลยค่ะ
โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St.Sophia Church) ซึ่งออกแบบและสร้างโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย เมื่อก่อนเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญต่างๆ ของชาวรัสเซียแต่มาถูกทำลายตอนปฏิวัติวัฒนธรรม และได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยพยายามรักษารูปแบบเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งใช้เวลาถึง 9 ปี โดยเริ่มต้นสร้างในปีค.ศ.1923 เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1932 ถือได้ว่าเป็นโบสถ์ Greek Orthodox ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกไกลออก ตัวโบสถ์สูง 53 เมตร มีโถงหลักที่มีหลังคารูปหัวหอมสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทม์คล้ายกับสถาปัตยกรรมของจัตุรัสแดงในกรุงมอสโคว แต่ในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นศูนย์ศิลปะและสถาปัตยกรรม แสดงภาพถ่ายขาวดำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองฮาร์บิน
|