วัดอาม่า (A-Ma Temple)

 

วัดอาม่า (A-Ma Temple)

                      วัดอาม่า คือ วันนี้เป็นวัดที่คนที่จะมาเที่ยวมาเก๊า ต้องไม่พลาดเป็นแน่ เพราะเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดและเก็บรักษาศิลปะวัตถุเก่าแก่ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลไว้มากมาย เป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่คงอยู่มาได้ยาวนานที่สุดในมาเก๊า วัดอาม่าคือศูนย์รวมใจชาวมาเก๊ วัดอาม่าซึ่งก่อร่างมาก่อนที่ประเทศมาเก๊าจะถือกำเนิด สถานที่รวมวัฒนธรรมจีนที่หล่อหลอมอยู่ในศรัทธาแห่งลัทธิเต๋า ขงจื้อ พุทธศาสนา และความเชื่อในเทพเจ้าวัดเจ้าแม่อาม่า หรือที่รู้จักกันในนามของ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่บริเวณเขาบาร์รา สร้างขึ้นเพื่อเป็นการถวายสักการะแก่อาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล โดยมีตำนานเล่าว่ามีหญิงสาวชื่อ 'หลิงม่า' เป็นชาวฟูเจี้ยน ต้องการข้ามฝั่งมายังคาบสมุทรเอ้าเหมิน จึงขอโดยสารมากับเรือประมงลำเล็กๆลำหนึ่ง แต่ระหว่างที่เรือล่องอยู่ก็กลับมีพายุเกิดขึ้นทำให้เรือลำอื่นๆอับปางลง แต่ด้วยปาฏิหาริย์ก็ทำให้เรือของหลิงม่าเดินทางมาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อก้าวเท้าขึ้นบนฝั่ง เธอก็ลอยขึ้นไปบนฟ้าและหายลับไป ชาวประมงทั้งหลายจึงเชื่อกันว่าเธอเป็นธิดาแห่งท้องทะเล และนับแต่นั้นดินแดนแห่งนี้ก็ได้รับการขนานนามว่า 'อ่าวของอาม่า' อ่านเป็นภาษาจีนว่า 'อามา เกา' และเพี้ยนมาเป็นมาเก๊าในปัจจุบัน โดยภายในวัดอาม่านั้นในมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงว่า เป็นจุดที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊าอีกด้วย ภายในมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงว่า เป็นจุดที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊า บริเวณหน้าวัดมีรูปปั้นสิงโตหินอยู่ 2 ตัว เชื่อกันว่าหากใครได้หมุนลูกแก้ว ที่อยู่ในปากสิงโตไปทางขวา 3 ครั้ง พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน แล้วจะสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา นอกจากนั้นยังมีความเชื่อเกี่ยวกับโชคลาภอีกมากมาย อย่างเช่น ชาวมาเก๊าจะใช้เหรียญลูบหลังเต่าแล้วทำท่าเก็บเงินเข้ากระเป๋าเพราะเชื่อว่าจะนำโชคลาภมาให้ ชาวประมงก่อนออกเดินเรือ จะต้องมาทำการสักการะ เพื่อขอพรให้เดินทางโดยปลอดภัย และหาปลากลับมาได้มากๆ ในช่วงวันเกิดอาม่า (A-Ma Festival) ซึ่งจะจัดขึ้นประมาณเดือนเมษายน หรือพฤษภาคมของทุกปี วัดแห่งนี้จะคักคักไปด้วยผู้คน เปิดให้เข้าชม 07.00-18.00 น