ย้อนรอยเมืองคาสิโน ... มาเก๊า

 

ประวัติมาเก๊า                      

                ชื่อ “มาเก๊า” มีที่มาจาก “อาม่า” องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเลผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตามตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า “อาม่า” มีพระนามเดิมว่า “หลิงม่า” หญิงสาวชาวฟูเจี้ยนที่วันหนึ่งเธอต้องการข้ามฝั่งมายังคาบสมุทรดอกลิลลี่ขาว หรือ “เอ้าเหมิน” ตามชื่อในภาษาจีน จึงขอโดยสารมากับเรือของชาวประมงชราคนหนึ่งซึ่งเป็นเพียงเรือลำเล็กๆ ที่ยอมให้หลิงม่า โดยสารมาด้วย ในระหว่างที่เรือล่องอยู่กลางทะเล เกิดมีพายุขึ้นอย่างรุนแรงทำให้เรือหลายลำต้องอับปาง แต่ด้วยปาฏิหาริย์ในคำสั่งฟ้าของหลิงม่าทำให้เรือที่เธอโดยสารมากับชาวประมงชราสามารถเดินทางมาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย ทันทีที่หลิงม่า ก้าวเท้าขึ้นสู่ฝั่งเธอก็ลอยขึ้นไปบนฟ้าและหายลับไป ชาวประมงทั้งหลายต่างเชื่อกันว่าเธอ คือ องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล นับตั้งแต่นั้นดินแดนแห่งนี้ก็ได้รับการขนานนามว่า “อ่าวของอาม่า” หรือ “อา-หม่า-เกา” (A-Ma-Goa) ที่เพี้ยนเสียงมาเป็น “มาเก๊า” ในปัจจุบัน

                มาเก๊าได้มีบทบาทที่มีอิทธิพลต่อจีนและตะวันตกโดยเฉพาะระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ คริสต์ศตวรรษที่ 19 ผู้ที่อาศัยอยู่ในมาเก๊าส่วนใหญ่พูดภาษากวางตุ้งเป็นภาษาแม่ ภาษาแมนดาริน ภาษาโปรตุเกส และภาษาอังกฤษก็มีพูดด้วย โดยกว้างชาวมาเก๊า หมายถึง ผู้ที่พำนักอาศัยถวารอยู่ในมาเก๊า ส่วนในวงแคบ หมายถึง ชนพื้นเมืองใน มาเก๊าที่สืบทอดมาจากชาวโปรตุเกส มักจะผสมกับชาวจีนและบรรพบุรุษชาติอื่น

                ในอดีตกาล มาเก๊า เป็นเพียงหมู่บ้านเกษตรกรรมและประมงเล็กๆ ชนชาติดั้งเดิม ที่เข้ามาตั้งรกรากคือ ชาวจีนกวางตุ้งและฟูเจี้ยน จนกระทั่งในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 พ่อค้าชาวโปรตุเกสหลายคน ได้เข้ามาบุกเบิกในแถบทวีปเอเชีย อาทิ วาสโก ดา กามา ซึ่งได้เดินทางบุกเบิกมาถึงช่องแคบมะละกา และต่อมาในปี ค.ศ. 1513 จอร์จ อัลวาเรส เป็นชาวโปรตุเกสคนแรกที่ได้เดินเรือมาถึงดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล และได้ติดต่อทำการค้ากับจีน ความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนและโปรตุเกสจึงได้เริ่มต้นขึ้น

                ตลอดระยะเวลากว่า 400 ปี แห่งการครอบครอง ผู้คนมักพูดถึงมาเก๊าในฐานะ อาณานิคมของโปรตุเกส แต่ในความเป็นจริงแล้ว โปรตุเกสปฏิบัติต่อมาเก๊าในฐานะ เป็นจังหวัดหนึ่งของโปรตุเกส แม้ว่าจะมีการแต่งตั้งข้าหลวงใหญ่เข้ามาปกครอง แต่ชาวมาเก๊าก็ได้รับสิทธิเสรีภาพอย่างเต็มที่ มาเก๊าได้รับเอาความเจริญรุ่งเรืองทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรมของชาติตะวันตกเข้ามาอย่างมากมาย สังเกตได้จาก ตึกรามบ้านช่อง, โบสถ์, ถนนสายคดเคี้ยวที่ปูด้วยกระเบื้องและหิน และสถาปัตยกรรมอื่นๆ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมแบบจีน นี่เองที่ทำให้มาเก๊า เป็นเมืองที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัวที่สุด “มาเก๊า” จึงนับว่าเป็นเมืองยุโรปใจกลางเอเชียอย่างแท้จริง

 

                 “มาเก๊า” ได้รับขนานนามว่าเป็นลาสเวกัส แห่งโลกตะวันออก สิ่งดึงดูดใจของมาเก๊าอีกอย่างหนึ่งคือ อุตสาหกรรมการพนันและกาสิโน นักพนันจากฮ่องกงมักจะเดินทางวันเดียวไปมาเก๊า โดยมีบริการเรือโดยสารระหว่างมาเก๊าและฮ่องกงตลอดวันทุกวัน เพราะการขยายตัวของนักท่องเที่ยวที่นิยมมาเสี่ยงโชค ทำให้เหล่านักธุรกิจหันมาปรับเปลี่ยนทำให้ความเจริญพุ่งถึงขีดสุดและจะยังพัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อยนอกจากจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของตะวันออกแล้ว ยังสามารถพบเห็นแหล่งอารยธรรมของชาวยุโรป ที่ยังหลงเหลืออยู่บนเกาะแห่งนี้ หลังจากที่ “มาเก๊า” เป็นอิสระจากการเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกส ถึงแม้จะผ่านมาหลายปี แต่ซากโบสถ์ อาคาร สไตล์โกธิค ยุโรปโบราณ ยังคงมีให้เห็นตลอดทางที่ มาเก๊า นอกจากสิ่งที่เหลือจากประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคมแล้ว