วันนี้ที่...ป่าตอง

แสงแดดจางๆ ส่องเข้ามาทางหน้าต่างเครื่องบิน ภาพเกาะน้อย เกาะใหญ่ที่กระจายตัวอยู่กลางทะเลสีน้ำเงิน นั่นแสดงให้ฉันรู้ว่า ฉันมาถึงแล้วนะ จ.ภูเก็ต ที่ใครหลายคนต่างพากันกล่าวถึงว่า...สวยงาม ฉันเดินทางมาภูเก็ต โดยมีจุดมุ่งหมายมาที่ หาดป่าตอง อยากมาให้เห็นกับตาว่าสีน้ำทะเลของที่นี่ ตัดกับ แสง สี เสียงยามค่ำคืนของป่าตองขนาดไหน และเมื่อเครื่องบินร่อนลงสู่รันเวย์ (ทีไร ท้องไส้ปั่นป่วน ขมวดเป็นก้อนขึ้นมาทันที) ฉันก็มุ่งสู่หาดป่าตอง

วันนี้ที่หาดท้องฟ้าแจ่มใส มองเห็นน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาด หาดทรายขาวเนื้อละเอียด พร้อมชาวต่างชาตินุ่งบิกินี่ตัวจิ๋ว มาเล่นน้ำบ้าง อาบแดดบ้าง ยิ่งทำให้หาดนี้ดูสดชื่นขึ้นมาอีกเยอะเลย แต่หากมาในช่วงประมาณเดือนมิถุนายน-ตุลาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่หาดป่าตองสามารถเล่นกระดานโต้คลื่นได้อีกด้วย ซึ่งชาวต่างชาติได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก บินตรงมาที่นี่เพื่อการเล่นกระดานโต้คลื่นโดยเฉพาะ ทำให้มีโอกาสเห็นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ยืนโชว์ความแข็งแรงอยู่บนกระดานโต้คลื่นได้อย่างเต็มตา แสงแดดที่นี่แรงจนแสบผิว แต่ไม่หวั่นกับการที่จะเปิดตาและเปิดใจสำรวจป่าตองอย่างใกล้ชิด จากบริเวณหน้าหาด (หันหน้าสู่หาด) เดินไปทางขวามือจนสุดหาดทราย เดินขึ้นเนินเล็กๆ ไปเรื่อยๆ จะพบกับจุดโขดหินของทะเลป่าตอง ตรงนี้น้ำทะเลจะมีสีฟ้าปนสีเขียวอ่อน มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ลมเย็นๆ ชื่นใจ แต่ฉันยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เดินฝ่าความร้อนของไอแดด มุ่งหน้าสู่ หาดกะหลิม ชายหาดที่แสนเงียบ ไร้ผู้คน อยู่ข้างๆ กับหาดป่าตอง น้ำทะเลก็สวยไม่ต่างกัน มีต้นหญ้าเล็กๆ ขึ้นเขียวก่อนลงถึงตัวหาดทราย ช่วยมาเพิ่มสีสันให้หาดกะหลิมดูสดชื่นมากกว่าเดิม และหากมาทันช่วงพระอาทิตย์จะตกดิน จะได้อีกหนึ่งบรรยากาศ ฉันขอนับเป็นไฮไลท์ (สำหรับตัวเอง) อีก 1 ที่ก็แล้วกัน


แดดร่มลมตก อาศัยเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ตะลอนป่าตอง ออกไปตามถนนสายหลัก ซึ่งเป็นวันเวย์ เดินรถทางเดียว และเมื่ออยากกินอาหารใต้บ้าง ให้แวะร้านข้าวยำปัตตานี อร่อยกำลังดี ร้านจะถึงก่อน ศูนย์การค้าจางซีลอน ห้างที่ใหญ่ที่สุดของป่าตอง ส่วนบริเวณตรงข้ามกัน ยังเป็นตลาดขายของขนาดใหญ่ จำพวกเสื้อผ้าสีสัน บิกินี่ ของใช้ต่างๆ ให้เลือกช้อปอย่างจุใจ ย้ำเตือนกันหน่อยว่า เวลาขับรถในป่าตอง ต้องระวังเรื่องวันเวย์เสมอ หากเข้าผิดเข้าถูกจะโดนเส้นทางบังคับซ้าย ขับไปเรื่อยๆ ขึ้น-ลงภูเขาสนุกสนานกันไป จนขับเลยออกไปไกลเกือบถึงตัวเมืองภูเก็ต ที่บอกได้ก็เพราะฉันหลงออกนอกเส้นทางมาแล้ว (ตื่นเต้นและได้ลุ้นว่าเส้นทางขึ้น-ลงเขานี้จะไปสุดที่ไหน)


ใครชอบงานศิลปะ ที่ป่าตองมีร้าน ART SHOP พร้อมแกลลอรี่เล็กๆ ข้างทางเยอะมาก อยู่แถวๆ แยกโคกมะขาม สามแยกที่บังคับรถเลนเดียวนั่นเอง จะเห็นศิลปินมานั่งวาดรูปสีน้ำมัน และมีโชว์งานสวยๆ ให้เห็น หรืออยากนั่งชิมกาแฟในร้านสไตล์เรโทร แนะนำให้ไปที่ Chic Room ถ.นาใน อยู่ด้านในสุดของป่าตอง เป็นร้านกาแฟชั้นครึ่ง ที่ตกแต่งแนวเรโทรได้น่ารัก พร้อมกับของเก่าเก็บที่สะสมไว้จำนวนมาก ที่นี่มี Wi-Fi ฟรีไว้คอยบริการด้วย เท่านั้นไม่พอเจ้าหน้าที่ของที่นี่ ยังพาไปชมโรงแรมด้านใน ที่ขอบอกว่า Chic! ไม่แพ้กับตัว Café เลย  สำหรับไฮไลท์ของป่าตองที่แท้จริงจะอยู่ที่ ถ.บางลา สถานที่ที่เต็มไปด้วย แสง สี เสียง ชาวต่างชาติ กลิ่นบุหรี่ แอลกอฮอล์และเสียงเพลง ประหนึ่งพัทยาขนาดใหญ่ แต่หากลงมาที่หาดแล้วลองยืนมองป่าตองแบบ 360 องศา จะพบว่าป่าตองมีเสน่ห์แม้ยามค่ำคืน การเดินทางภายในป่าตอง มีอยู่ 4 รูปแบบคือ รถตุ๊กๆ แบบเหมาจ่าย วินมอเตอร์ไซค์ ขอบอกว่า ทั้ง 2 อย่างราคาแพงมาก เช่ามอเตอร์ไซค์หรือจักรยานแบบรายวันจะคุ้มมากถึงมากที่สุด และแบบสุดท้าย "เดิน" มันอาจจะเหนื่อยและร้อนมาก แต่มันทำให้เราได้เห็นอะไรอะไรมากขึ้น เพียงช่วงสั้นๆ เดินดีกว่าค่ะ และอย่าลืมมองหาป้ายเส้นทางหนีคลื่นยักษ์ไว้ด้วยก็ดี อย่างน้อยจะได้รู้เส้นทางหนี หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

หากมีเวลามากหน่อย นอกจากป่าตองแล้ว ที่ภูเก็ตยังมีที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองเก่าย่าน อ.เมือง วันเสาร์มีถนนคนเดินด้วย น่าสนใจมาก หาดกะตะ หาดกะรน แหลมพรหมเทพที่ขึ้นชื่อและเกาะต่างๆ อีกมากมาย สามารถเดินทางได้ด้วยรถสองแถวใหญ่ ในราคาเพียง 25 บาทตลอดสาย โดยให้เริ่มต้นที่ตลาดในเมือง แล้วจะมีบริการรถสองแถวใหญ่หลายเส้นทางออกไปสู่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ หรือหากจะออกจากป่าตอง สามารถนั่งรถสองแถวใหญ่ได้บริเวณสี่แยกป้อมตำรวจฯ ทางที่จะไปหาดกะหลิม รอนานหน่อย แต่มาแน่นอนค่ะ

ขอขอบคุณ
ทีมงาน Quiksilver Thailand Surf Competition 2011 และ Ibis Hotel
ด.ต.เดชณรงค์ บัวแก้ว สภ.กะทู้ งานป้องกันปราบปราม

เรื่อง / ภาพ : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ