สาธารณรัฐสิงคโปร์ ไม่ใช่จุดหมายสำหรับไปทำธุรกิจหรือช็อปปิ้งเพียงอย่างเดียว หากแต่สิงคโปร์มีความลึกและกว้างกว่านั้นมาก สิงคโปร์เป็นเมืองประวัติสาสตร์ อาคารและสิ่งก่อสร้างอ่สาโอ่ มรดกแหงเจ้าอาณานิคมยังปรากฏให้เห็นแทบจะทุกหัวถนน ขนาดที่ว่าหาใครสักคนมาปิดตาแล้วปล่อยไว้กลางเมือง เปิดตาออกมาอาจจะเข้าใจว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในประเทศหนึ่งในยุโรป ใรขณะที่ความทันสมัยล้ำหน้าของเทคโนโลยีและการเติมโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ดังกระหึ่มฟากฟ้าสากล ทว่าความโบร่ำโบราณบางอย่างก็เดินเนิบๆคลอเคลียร่วมทางมาโดยตลอด
|
|
ของขวัญที่ว่านี้คือ รูปปั้นช้างสำริด ยืนสง่าอยู่บนแท่นสี่เหลียมสูง มีแผ่นป้ายภาษาไทยกำกับไว้ความว่า สิงคโปร์เป็นต่างประเทศแห่งแรกที่ราชวงศ์ไทยเสด็จพระราชดำเนินมาถึง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1871 เที่ยบเท่ากับ พ.ศ. 2414 เดิมนั้นรูปปั้นช้างสำริดตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของ Victoria Memorial Hall ก่อนจะถูกย้ายมาที่ปัจจุบัน คือบริเวณ The Old Parliament House สละที่ตั้งเดิมให้กับรูปปั้นของ เซอร์ โธมัส แสตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ ซึ่งเข้ามาแทนในปี ค.ศ. 1919 ฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งประเทศ กว่า 140 ปีล่วงมาแล้วที่ของขวัญพระราชทานชิ้นนี้อยู่คู่บ้านคู่เมืองสิงคโปร์มา เป็นประจักษ์พยานถึงสัมพันธไมตรีอันดีงามระหว่างสองประเทศที่มีต่อกันมายาวนานหลายชั่วอายุคนและยืยยันถึงประวัติศาสตร์มากมายที่เคยไหลผ่านในดินแดนสุดปลายแหลมมาลายูแห่งนี้ ซึ่งก่อกำเนิดเรื่องราวอันหลากหลายที่ผสมผสานกันให้เกาะเล็กๆแห่งนี้มีสีสัน มีหลายแง่มุม และเป็นประเทศน่าท่องเที่ยวไม่แพ้ที่ใดในโลก |
|