เจดีย์ทหารหนึ่งพันนาย BOTAHTAUNG PAGODA

     หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุใดนามตะวันสูงขึ้นในตำแหน่งตรงหัว ก็ยังคงเห็นพระหรือเณรบางรูปเดินอยู่นอกกำแพงวัดอีก ที่เป้นอย่างนี้ก็เพราะพระพม่าได้รับอนุญาตให้บิณฑบาตได้ถึงก่อนสิบโมงครึ่ง ยืดเวลาให้ญาติโยมที่อยู่บ้านไกล เดินทางมาทำบุญได้ทัน บางคราเราอาจเห็นภาพพระสงฆ์เดินมากับสตรีเสียด้วยซ้ำ แต่โดยมาแล้วสตรีเหล่านั้นเป็นคนในครอบครัว อาจเป็นได้ทั้งมารดาหรือพี่สาวน้องสาวของพระรูปนั้น และไม่ได้เป็นพลเมืองย่างกุ้ง หากแต่ร่วมขบวนเดินทางมาจากต่างเมือง เพื่อเข้ามากราบไหว้พุทธสถานสำคัญๆในเมืองย่างกุ้ง อันดับแรกที่ทุกผู้ทุกคนต้องมุ่งไปคือ มหาเจดีย์ชเวดากอง และ เจดีย์โบตะทาวน์
     ระหว่างมหาเจดีย์ชเวดากองและเจดีย์โบตะทาวน์ มีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันอยู่ ตำนานเล่าสืบกันมาว่า ณ บริเวณเจดีย์โบตะทาวน์นี้เองเป็นจุดที่พ่อค้าสองพี่น้อง ตปุสสะ และ ภัลลิกะ อัญเชิญพระเกศาธาตุแปดเส้นของพระพุทธเจ้าขึ้นจากเรือ มาอยู่บนแผ่นดินพม่าเป็นครั้งแรก  ข้อเท็จจริงประการหนึ่งจากตำนานนี้คือในบริเวณนี้เมื่อกว่า 2,500 ปีล่วงมาแล้ว เคยเป็นท่าเรือใหญ่ประจำเมืองย่างกุ้ง ฉะนั้นหากกษัตริย์โอกกลางปะจะทรงสั่งให้ โบตะทาวน์ ซึ่งหมายถึง ทหาร 1,000 นาย มาตั้งกองเกียรติยศต้อนรับพระเกศาธาตุเป็นการเอิกเกริก พื้นที่โดยรอบนี้ก็จัดว่าเป็นชัยภูมิเหมาะเจาะและเป็นไปได้มากที่สุด

 

 

      องค์เจดีย์ที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นองค์ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ทดแทนองค์เดิมที่ถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2486 และในระหว่างการเก็บกวาดซากปรักนั้นเอง ก็ได้พบโกศทองคำทรงสถูปภายในประดิษฐานพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอื่นๆของพระพุทธเจ้าอีกสองชิ้น
และเมื่อเจดีย์โบตะทาวน์องค์ใหม่เสร็จลุล่วงในปี พ.ศ.2496 ของศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกค้นพบจึงถูกนำไปประดิษฐานไว้ภายในองค์เจดีย์ ซึ่งปลูกสร้างเป็นห้องกลวง มีเส้นทางเดินภายใน ตกแต่งอย่างงดงามด้วยสีทองแอร่มและเพชรนิลจินดาสูงค่า เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนเข้าไปกราบไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตูและพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัยได้อย่างใกล้ชิด